การใช้เหยื่อปลวกเหมาะสำหรับการกำจัดรังปลวกทั้งหมด เป็นวิธีที่ยั่งยืนในระยะยาวและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า แต่อาจใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล ส่วนการอัดน้ำยามีประสิทธิภาพในการป้องกันได้ทันทีและครอบคลุมพื้นที่กว้าง แต่อาจต้องทำซ้ำเป็นระยะ โดยทั่วไปผู้เชี่ยวชาญมักแนะนำให้ใช้ทั้งสองวิธีร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับบ้านเรือน ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษในบริเวณชั้นใต้ดิน คานไม้ ตู้เก็บของที่ไม่ค่อยได้เปิดใช้งาน และบริเวณรอบๆ หน้าต่างที่มีความชื้นสะสม ส่วนในโรงงาน จุดสำคัญที่ต้องตรวจสอบได้แก่ โกดังเก็บวัตถุดิบ บริเวณท่อน้ำทิ้ง ชั้นวางสินค้าไม้ และพื้นที่ที่มีการรั่วซึมของน้ำ การตรวจสอบเป็นประจำทุก 3-6 เดือนและการบำรุงรักษาโครงสร้างอาคารจะช่วยลดโอกาสการเข้าทำลายของปลวกได้อย่างมาก

ระบบ IPM ในโรงงานยังช่วยลดการใช้สารเคมีโดยไม่จำเป็น ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยสำหรับพนักงาน โรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP, HACCP หรือ ISO จำเป็นต้องมีการจัดการแมลงที่เป็นระบบและมีเอกสารรับรอง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการรักษามาตรฐานและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์

แมลงสาบมักซ่อนตัวในที่มืดและชื้น เช่น ใต้อ่างล้างจาน หลังตู้เย็น ในท่อระบายน้ำ และตามรอยแตกของผนัง การทำความสะอาดบริเวณเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ การเก็บอาหารในภาชนะปิดสนิท และการกำจัดแหล่งน้ำที่แมลงสาบสามารถเข้าถึงได้ จะช่วยลดโอกาสการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีกำจัดมดแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน มดดำควรใช้เหยื่อพิษแบบเจล มดแดงควรกำจัดรังและใช้สารเคมีประเภทสเปรย์ฉีดโดยตรง ส่วนมดคันไฟต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะสร้างรังใต้ดิน ควรใช้ทั้งเหยื่อและการราดน้ำยาบริเวณรัง การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรักษาความสะอาด ปิดจุดเข้าออกของมด และกำจัดแหล่งอาหารที่ดึงดูดมดเข้ามา

การป้องกันหนูท่อควรเน้นการปิดกั้นทางเข้าจากภายนอก การติดตั้งตะแกรงในท่อระบายน้ำ และการใช้กับดักขนาดใหญ่ ส่วนหนูหริ่งต้องเน้นการกำจัดแหล่งอาหารภายในอาคาร การอุดรูและช่องเล็กๆ และการใช้กับดักขนาดเล็กหรือเหยื่อพิษที่เหมาะสม หนูทั้งสองชนิดเป็นพาหะของโรคร้ายแรงหลายชนิด รวมถึงโรคฉี่หนู การตรวจสอบร่องรอยการกัดแทะ มูลหนู และรอยเปื้อนตามแนวผนังเป็นวิธีสังเกตการระบาดได้เบื้องต้น